วันอังคาร, 19 มีนาคม 2567

เรื่องสิวๆที่คุณต้องรู้ ก่อนสูญเสียผิวอันสดใสไป

15 ต.ค. 2018
1561

ปัญหาสิว ที่มันน่ารำคาญ มากวนใจ วนเวียน เป็นๆหายๆ กับใครหลายๆคน  แต่เมื่อเจอแล้วก็ต้องมาทำความรู้จักกับน้องสิวจ๋า…ให้มากขึ้นกันสักหน่อยนะครับ เพื่อนๆหลายๆคนผมเชื่อว่าต้องเคยเจอกับสิวจ๋า..นี้มาบ้างละ มันน่ารำคาญใช่ไหมครับ ไม่ใช่แค่น่ารำคาญ แต่มันยังสามารถฝากรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าเราอีกด้วย แบบนี้ใครๆก็ไม่อยากเป็นนะเออ แต่เมื่อเป็นสิวมาแล้ว เราก็ต้องมารู้จักวิธีการดูแลกับปัญหาสิวกันนะครับ วันนี้ COZCHILL กับปัญหาสิว ที่เรารวบรวมความรู้ วิธีดูแล และรักษาตั้งแต่ตัวเองจนถึงให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล ไปดูกันเลยครับ

สิว (Acne) เป็นการอักเสบของผิวหนังที่มีการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน เกิดเป็นจุดเล็ก ๆ ที่อักเสบ บวมแดง หรือมีหนอง ส่วนมากจะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก ไหล่ หรือหลัง การเกิดสิวพบมากในช่วงวัยรุ่นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยทั่วไปสิวมักจะหายไปหรือทุเลาลงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น

อาการของสิว

ลักษณะและอาการที่ปรากฏขึ้นอยู่กับประเภทของสิวแต่ละชนิดและความรุนแรงของการอักเสบด้วย ซึ่งได้แก่ สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวตุ่ม สิวหัวหนอง สิวก้อนลึก และสิวซีสต์ โดยอาการที่พบ เช่น ตุ่มอักเสบมีหนองสีขาว มีจุดหัวสิวสีดำ มีตุ่มแดงเล็ก ๆ มีตุ่มนูนเป็นผดแดง มีตุ่มเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนัง และเกิดความเจ็บปวดบริเวณที่เป็นสิว

สาเหตุของการเกิดสิว

สิวเกิดจากการอุดตันที่รูขุมขนบริเวณผิวหนัง ปัจจัยหลักในการเกิดสิว คือ ร่างกายผลิตน้ำมันที่ชั้นผิวหนังมากเกินไป เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน และการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตในช่วงวัยรุ่นก็อาจทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
แม้ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนที่พิสูจน์ได้ว่าปัจจัยอื่น ๆ เหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เช่น การกินอาหาร หรือการมีสุขลักษณะที่ไม่ดี แต่การดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย ย่อมเกิดประโยชน์ต่อร่างกายโดยรวม

การวินิจฉัยสิว

ตรวจดูบริเวณผิวหนังที่เกิดสิว ว่าเป็นสิวชนิดใด มีความรุนแรงของการอักเสบในระดับใด วิเคราะห์จากลักษณะภายนอกที่พบ ระยะเวลาที่สิวอักเสบ และความเจ็บปวดที่เกิดจากการอักเสบของสิว โดยสามารถตรวจดูเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หรือไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยก่อนวางแผนการรักษาต่อไป

การรักษาสิว

สามารถรักษาได้ด้วยตนเองโดยใช้ยาหรือครีมตามร้านขายยาที่มีใบรับรอง โดยให้เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำได้ หากมีสิวขึ้นจำนวนมาก สิวสร้างความเจ็บปวด หรือรักษาด้วยตนเองแล้วการอักเสบของสิวยังไม่ทุเลาลง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจรักษาได้ โดยกระบวนการรักษาขึ้นอยู่กับประเภทของสิว อาการและระดับความรุนแรงของการอักเสบ ประกอบด้วยการรับประทานยา การทายา การฉีดยา และการบำบัดด้วยวิธีต่าง ๆ

ภาวะแทรกซ้อนจากการเกิดสิว

ในขณะที่เป็นสิว อาจเกิดความวิตกกังวลและความเครียด ที่นำไปสู่การเกิดภาวะซึมเศร้าและการแยกตัวออกจากสังคมได้ และหลังหายจากการเป็นสิว อาจปรากฏเป็นร่องรอยหรือรอยแผลเป็นลึกในบางราย แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน มีวิธีการมากมายให้เลือกใช้ในการรักษารอยที่เกิดจากสิว และการบำบัดรักษาภาวะทางด้านจิตใจด้วยเช่นกัน

การป้องกันการเกิดสิว

เทคนิควิธีการที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิว หรือป้องกันไม่ให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น สามารถทำได้โดย ล้างหน้าบริเวณที่เป็นสิวไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน ไม่แตะต้องสัมผัสบริเวณที่มีสิวอักเสบ ล้างเครื่องสำอางก่อนเข้านอนเพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน ไม่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ใช้ครีมบำรุงหรือยาที่ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบริเวณผิวหนัง ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปหรือแนบเนื้อเพื่อลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวหนัง และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เพื่อชำระล้างเหงื่อและน้ำมันที่ถูกขับออกมาในแต่ละวัน โดยเฉพาะหลังกิจกรรมหนัก ๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก :
www.pobpad.com
เรียบเรียงโดย :
www.cozchill.com